แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

1. วัฒนธรรมที่จับต้องได้

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโละจูด




📍ที่ตั้ง : หมู่ 2 ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
ข้อมูล/รายละเอียด : พิพิธภัณฑ์โละจูด เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวของอำเภอแว้ง ได้จดทะเบียนเป็นพิพิธภัณฑ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๖ โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้มาช่วยการจัดหมวดหมู่ เป็นการริเริ่มของนายเจ๊ะปอ ลอดีง อดีตกำนันตำบลโละจูด ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๑ โดยใช้บ้านของตนเป็นศูนย์ดำเนินการก่อสร้าง อาคารพิพิธภัณฑ์แบบทรงไทย แล้วออกรวบรวมโบราณวัตถุตามหมู่บ้านต่าง ๆ ได้แก่ บ้านบาลา บ้านซะ บ้านสาวอ และบ้านโละจูด ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิม ในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ได้รับพระราชทานรางวัลอนุรักษ์มรดกไทยศิลปวัตถุที่รวบรวมไว้มีอายุระหว่าง ๑๐๐ - ๓๕๐ ปี มีอยู่ประมาณกว่า ๒๐๐ ชิ้น แบ่งประเภทออกเป็น
เครื่องใช้สอย เช่น เครื่องกระเบื้องเคลือบ เครื่องทองเหลือง เครื่องดินเผา เครื่องจักสาน และเครื่องโลหะ ขอสับช้าง กระดิ่ง
อาวุธ ได้แก่ หอก ดาบ มีด พร้า ขอ ขวานชนิดและแบบต่าง ๆ กริช
เครื่องประดับ ได้แก่ หัวสัตว์ เขาสัตว์ และสัตว์สตาฟต่าง ๆ ดอกไม้
เงินตรา มีเงินตราต่าง ๆ

มัสยิดตาราม


📍ที่ตั้ง : หมู่ ๒ ถ.โต๊ะเว็ง ต.แว้ง จ.นราธิวาส
ข้อมูล/รายละเอียด มัสยิดตาราม ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๒ ถ.โต๊ะเว็ง ต.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งได้เป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๘ (ฮ.ศ.๑๓๔๗) และได้พัฒนามาเรื่อยๆจนกระทั่งปีพ.ศ.๒๔๙๘ (ฮ.ศ.๑๓๗๔) ได้จดทะเบียนเป็นมัสยิด วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๔๙๘ เลขที่ ๖๐ และเริ่มสร้างอาคารมัสยิดหลังใหม่เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๐๑ (ฮ.ศ.๑๓๗๙) แล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๐ (ฮ.ศ.๑๓๙๘) ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นอิหม่ามคนปัจจุบันคือนายไซนุน บือราเฮง ปัจจุบันมีโรงเรียนตาดีกา (มักตับตาราม) เป็นอาคารประกอบ ๓ ชั้น ห้องเรียน ๖ ห้อง มีนักเรียนทั้งหมด ๑๓๔ คน และอุสตาส ๔ คน มีศูนย์การเรียนรู้คอมพิวเตอร์ (ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน) จำนวน ๑๐ เครื่องและเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชน

การแสดงตารีอีนา


    บ้านสามแยก ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เป็นอีกชุมชนหนึ่งที่มีศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตนเองคือการแสดง "ตารีอีนา" และ "ซีละ" โดยเฉพาะการแสดงตารีอีนา ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยนับวันจะสูญหายไปเนื่องจากขาดผู้สืบทอด องค์การบริหารส่วนตำบลกายูคละและศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอแว้ง สนับสนุนให้เยาวชนเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยสืบสานถ่ายทอดฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นจึงร่วมกับองค์กรเยาวชนจัดทำโครงการศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น (ตารีอีนา)เพื่อสร้างจิตสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด

อานาซีดกุมปัง


     ตามประวัติศาสตร์แล้วมีการใช้ “กุมปัง” เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ประเภทเครื่องเคาะหรือกลอง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของชาวมุสลิมทั่วโลก ในสมัยโบราณนัน การแสดงกุมปังนัน ใช้ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ปัจจุบันใช้ในการแสดงในขบวนแห่งานมงคลต่าง ๆ ที่มีความหมายถึงการต้อนรับ

2. วัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

งานสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นอำเภอแว้ง

     
     งานสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นอำเภอแว้ง เป็นการจัดงานเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนและเยาวชนให้มีการอนุรักษ์ และรักษาวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณให้คงอยู่สืบไป โดยการจัดงานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอำเภอแว้งจัดขึ้นต่อเนื่องทุกปี ถือเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชน และเยาวชนมีความหวงแหน และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีโบราณที่มีมาแต่ช้านานให้คงอยู่สืบไป พร้อมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอแว้งเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างพื้นที่ได้มาท่องเที่ยวใน จ.นราธิวาสด้วย โดยในงานประกอบด้วยการตีกลองบานอ ถือเป็นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน  ซึ่งอำเภอแว้งเป็นสถานที่แห่งเดียวที่มีการสืบสานการตีกลองบานอจนถึงปัจจุบัน  สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ประกอบไปด้วย กิจกรรมการประกวดขบวนแห่อัตลักษณ์ของหมู่บ้าน  ตำบล  และเครือข่ายของโรงเรียนทุกแห่งในอำเภอแว้ง  การประกวดกลองบานอ  การประกวดกลองยาว  การประกวดดีเกฮูลู การจัดซุ้มนิทรรศการและสาธิตการทำขนมพื้นเมือง
สถานที่จัดงาน : หน้าที่ว่าการอำเภอแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส 

วัฒนธรรมทางศาสนา

>> ศาสนาอิสลาม

ฮารีรายอ

          ฮารีรายอเป็นวันสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลกวันหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นวันรื่นเริงประจำปีซึ่งชาวมุสลิมได้เดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อเข้าร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้องเพื่อขออภัยซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาในรอบ ปีของชาวมุสลิม มีวันฮารีรายอ ครั้ง คือ
     1. อีดิลฟิตรี ตรงกับวันที่ เดือนเชาวาล ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งเป็นวันออกบวชหลังจากได้ถือศีลอดตลอดระยะเวลา เดือน นิยมเรียกวันนี้ว่า “วันออกบวช” หรือ “รายาปอซอ หรือ “รายาฟิตเราะห์

     2. อีดิลอัฏฮา ตรงกับวันที่ 10 เดือน ซุลฮิจญะห หรือตรงกับเดือน 12 ของปฏิทินอิสลาม ซึ่งถัดจากวันอารอฟะฮ และเป็นวันส่งท้ายของสิบวันแรกในเดือนซูลฮิจญะ มีลักษณะคล้ายกับวันตรุษอิดิลฟิตรี แต่มีข้อแตกต่างตรงที่มีการทำกุรบาน เป็นวันเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสมุสลิมทั่วโลกได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ อันเป็นวันริเริ่มประกอบพิธีฮัจญ์ ส่วนผู้ไม่ได้ไปก็ให้ไปประกอบพิธีละหมาดอิดิลอัฏฮายังมัสยิดประจำหมู่บ้าน ในวันอิดิลอัฎฮาจะมีการทำกุรบาน โดยมีการเชือดสัตว์กุรบาน ได้แก่ อูฐ วัว แพะ

วันอาซูรอ

          การกวนขนมอาซูรอ เป็นประเพณีคนที่นับถือศาสนาอิสลาม คำว่า “อาซูรอ” เป็น ภาษาอาหรับ แปลว่าชื่อของวันที่ 10 เดือนมูฮัมรัม เป็นเดือนแรกตามปฏิทินของศาสนาอิสลาม ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ของ เดือน ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาอิสลามอย่างหนึ่งที่ ชาวมุสลิมทั่วโลกต้องจัดขึ้น การจัดกิจกรรมอาซูรอเป็นการทบทวนหรือการระลึกถึงความยากลำบากของชาวมุสลิมใน สมัยท่านศาสดานุฮ ที่ประสบกับมหาอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมด้วยกันเอง ประโยชน์ของการจัดกิจกรรมอาซูรอสัมพันธ์ เพื่อให้ชาวมุสลิมได้ตระหนักถึงประเพณีทางศาสนาอิสลาม และทำให้เกิดความสัมพันธ์ฉันท์พี่ฉันท์น้อง ตลอดจนทำให้เกิดความไว้วางใจต่อกัน ความสามัคคีด้วยกันเอง เนื่่่่องจากปัญหา จังหวัด ในปัจจุบันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชาวมุสลิมลดน้อยลง การกวนอาซูรอถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความสามัคคี ของพี่น้องในพื้นที่โดยเฉพาะชาวมุสลิมกันเอง

งานเมาลิด

   ในทุกๆรอบปีในปฏิทินจากทั่วโลกก็จะมีวันสำคัญต่างๆตามความเชื่อของกลุ่มชนนั้นๆ ซึ่งในปฏิทินอิสลามหรือปฏิทินฮิจเราะห์ก็จะมีวันสำคัญต่างๆตามความเชื่อของชาวมุสลิมเช่นเดียวกัน บทความนี้จึงขอหยิบยกเรื่องราวของเทศกาลวันสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิม ที่เป็นวิถีปฏิบัติที่ถูกสืบทอดกันมายาวนานมาเล่าสู่กันฟัง  หนึ่งในวันสำคัญที่เราจะมาพูดถึงนั้นคือ “เมาว์ลิดนบี”

>> ศาสนาพุทธ

ถวายเทียนพรรษาวัดเขาเข็มทอง


     ประเพณีแห่งการถวายเทียนจำนำพรรษานั้น เนื่องจากสมัยก่อนพระภิกษุสงฆ์ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจึงหล่อเทียนต้นใหญ่ขึ้น เพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์จุดให้แสงสว่างในการปฏิบัติกิจวัตรต่างๆ เป็นพุทธบูชาตลอดเวลา ๓ เดือน การนำเทียนไปถวาย ชาวบ้านมักจัดขบวนแห่กันอย่างเอิกเกริกสนุกสนานและปฏิบัติสืบทอดกันมาจนกลายเป็นประเพณี
สถานที่จัดงาน : วัดเขาเข็มทอง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส

ประเพณีกวนข้าวทิพย์ หรือ ข้าวมธุปายาส


     พิธีกวนข้าวทิพย์ เริ่มต้นด้วยพิธีพราหมณ์ ตั้งบายศรีบวงสรวงเทพยดาเครื่องประกอบในการตั้งบายศรี มีไตรจีวร 1 ชุด และถาดใส่อาหารมีข้าว ไข่ ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว และผลไม้ พราหมณ์สวดชุมนุมเทวดา แล้วเริ่มพิธีกวนข้าวทิพย์ โดยการนำเอาข้าวที่ยังเป็นน้ำนม (ข้าวที่เพิ่งออกรวงใหม่ ที่เมล็ดยังเป็นแป้ง นำมาเอาเปลือกออก) สิ่งของเครื่องปรุงข้าวทิพย์ คือมงคล 9 สิ่ง ได้แก่ นม เนย ถั่ว งา น้ำอ้อย น้ำตาล น้ำผึ้ง และผลไม้ต่างๆ ใส่ร่วมกันลงไป แล้วกวนให้ข้าวสุกจนเหนียว การกวนข้าวทิพย์นี้จะต้องใช้สาวพรหมจารี นุ่งขาวห่มขาวอย่างน้อย 4 คน เป็นผู้กวน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ทายก ทายิกา จะช่วยกันปั้นข้าวทิพย์เป็นก้อนๆ ถวายแด่พระภิกษุภายในวัด และจัดแบ่งไปถวายพระภิกษุตามวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ที่เหลือแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ไปร่วมทำบุญในวันนั้น เพื่อเป็นการให้ทาน
สถานที่จัดงาน : วัดนิคมแว้ง หมู่ที่ ๖ ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส





ความคิดเห็น